วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รักสะอาดเกินไป เสี่ยงโรคซึมเศร้า

ที่มา: MGR Online
การรักความสะอาดนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่การรักสะอาดจนเกินพอดี อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าได้  เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ได้เจอหน้าศัตรูอย่างเชื้อโรคบ่อยเข้า จะมีผลต่อสมองในการผลิตสารความสุขอย่าง "เซโรโทนิน" (Serotonin) ให้ลดน้อยลงจนมนุษย์คนนั้นป่วยได้นั่นเอง
       หันมองรอบตัวตอนนี้ เราแทบจะมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดนับร้อยชนิดให้เลือกซื้อจากชั้นวางสินค้า โดยแทบทุกยี่ห้อระบุว่าสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้จนเหมือนมีโถส้วม ห้องครัวใหม่ จนเราแทบจะบอกภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เลยว่า "เธอไม่ต้องออกโรงอีกแล้ว
       แต่ยิ่งทำความสะอาดมากขึ้น  ก็ยิ่งมีคนป่วยด้วยโรคซึมเศร้ามากขึ้นนี่สิ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สงสัย พร้อมอ้างอิงตัวเลขด้วยว่า ตัวเลขของการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าของประชากรในประเทศแถบยุโรปนั้นทิ้งห่างกลุ่มประเทศยากจนลิบลับ ยกตัวอย่างเช่น อังกฤษ มีคนป่วยด้วยโรคซึมเศร้า 1 ใน 10 ส่วนประเทศไนจีเรีย ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าเพียง 1 ใน 100 เท่านั้น ซึ่งนักวิจัยกลุ่มนี้อ้างว่า เป็นเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายของชาวยุโรปไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างที่ควรจะเป็น
       ดร.แอนดรูว์ มิลเลอร์ หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ในทีมวิจัยระบุว่า "เราเชื่อว่า ภูมิคุ้มกันของร่างกายคือตัวการของการเกิดโรคซึมเศร้า เมื่อมนุษย์เติบโตขึ้น ภูมิคุ้มกันก็พัฒนาตนเองไปพร้อม ๆ กัน หากภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เจอกับแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ บ้าง ก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันนั้นแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ทุกวันนี้ ทุกสิ่งรอบตัวของมนุษย์ต้องสะอาดไปหมด ดังนั้น ภูมิคุ้มกันจึงไม่ค่อยได้พบกับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเท่าใดนัก และนั่นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ อีกทั้งยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองในการผลิตสารที่สร้างความสุขให้กับร่างกายอย่าง "Serotonin" ซึ่งนั่นทำให้มนุษย์ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอีกด้วย
   ถึงวันนี้อาจต้องยอมรับว่า สิ่งต่าง ๆ ที่ถูกสร้างมา โดยเฉพาะแบคทีเรียที่ถูกมองเป็นตัวร้าย ตัวการก่อโรคต่าง ๆ ให้กับมนุษย์นั้น มีภารกิจบางประการแอบซ่อนอยู่ และเป็นภารกิจที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน เพราะแบคทีเรียบางชนิดก็จำเป็นสำหรับการสร้างภูมิต้านทานให้กับมนุษย์ หากขาดมันไป ก็อาจทำให้มนุษย์เราป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ดังที่เป็นอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น