วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ (สุข) ได้

ที่มา :  40plus.posttoday
ความจริงก็คือเราทุกคนกำลังอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบถ้าเกิดขึ้นได้เป็นสิ่งดี แต่เนื่องจากข้อจำกัดในชีวิต คนเรามีหมวกหลายใบที่ต้องรับผิดชอบ การที่จะให้ทุกบทบาทรวมทั้งการดูแลสุขภาพกายใจของตัวเองสมบูรณ์แบบไม่ขาดตกบกพร่อง น้อยคนหรือแทบไม่มีเลยที่จะทำได้ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน

ความจริงก็คือเราทุกคนกำลังอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบถ้าเกิดขึ้นได้เป็นสิ่งดี แต่เนื่องจากข้อจำกัดในชีวิต คนเรามีหมวกหลายใบที่ต้องรับผิดชอบ การที่จะให้ทุกบทบาทรวมทั้งการดูแลสุขภาพกายใจของตัวเองสมบูรณ์แบบไม่ขาดตกบกพร่อง น้อยคนหรือแทบไม่มีเลยที่จะทำได้ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน
ไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ (สุข) ได้

ยิ่งสูงยิ่งหนาว คุณวุฒิวัยวุฒิยิ่งสูงยิ่งบีบคั้น ใครก็ตามที่กำลังเครียดหรือมีความทุกข์จากปัญหาเรื่องความ (ไม่) สมบูรณ์แบบในชีวิต ถึงคราวต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ปรับเปลี่ยนวิธีคิดได้แล้ว
1.ในแต่ละวันควรหาเวลาผ่อนคลายจากความเครียด
พักสมอง พักจิตใจ พักอารมณ์ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อที่ความเครียดจะได้ไม่สะสม อาจทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำสมาธิ เล่นโยคะ ชี่กง ออกกำลังกายฯลฯ
การมีเวลาผ่อนคลายจะช่วยให้การมองสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นมัวน้อยลง มีสติมากขึ้น การตัดสินใจแก้ปัญหาก็จะดีขึ้น ผิดพลาดน้อยลง
2.ฝึกมองสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวก
มองข้อดีของสิ่งที่ตนเองได้รับและชื่นชมข้อดีนั้น ไม่ใช่มุ่งมองแต่ข้อที่ขาดไปหรือข้อเสียเท่านั้น การสามารถมองด้านบวกได้จะทำให้เกิดกำลังใจในการต่อสู้แก้ไขปัญหา
3.เตือนตัวเองว่า ความไม่สมบูรณ์แบบไม่ได้แปลว่าเราแก้ไขไม่ได้
เราไม่ได้อยู่ในโลกที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนมีข้อดี มีข้อเสียและข้อจำกัด เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหา การตั้งเป้าหมายหรือการตั้งความคาดหวังต่อสิ่งต่าง ๆต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดและพื้นฐานความเป็นจริงของปัจจัยแวดล้อมด้วย
4.ไม่ต้อง 100%ทุกเรื่องก็ได้
คนทุกคนย่อมมีความรับผิดชอบในหลายเรื่อง ต่างคนต่างสวมหมวกกันคนละหลายใบ เช่น เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นสามีภรรยา เป็นลูกจ้าง เป็นนักเรียน เป็นพนักงานลูกน้องฯลฯ ไม่ได้หมายความว่าต้องทำทุกเรื่องให้ได้ผลสมบูรณ์ 100% เต็มในทุกเรื่อง
มีบางเรื่องที่ความสมบูรณ์ของผลงานสำคัญมาก บางเรื่องสำคัญปานกลาง บางเรื่องสำคัญน้อย บางเรื่องไม่เร่งด่วน การจัดลำดับความสำคัญของภาระแต่ละเรื่อง ถ้าทำได้ดี จะช่วยลดความเครียดและแรงกดดันต่อตนเองได้มาก
5.สื่อสารให้เป็น
วิธีการสื่อสารกับคนในบ้านและที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญ นั่นหมายถึงความสามารถในการมองเห็นข้อดี ชื่นชมกันและให้กำลังใจกัน รวมทั้งให้เกียรติกัน อย่าเป็นคนที่มองเห็นแต่ข้อเสีย และถึงแม้ว่า “เห็น”ข้อเสียของคนอื่นจริง ๆ ก็ต้องพูดเป็นสื่อสารเป็น ถ้าต้องการให้เขาแก้ไข การใช้อารมณ์รังแต่จะทำให้ผู้ถูกติเตียนเสียความรู้สึก ไม่ให้ความร่วมมือ งานสำเร็จยาก
สรุปว่า การตั้งเงื่อนไขกับตัวเองว่า ฉันจะมีความสุขต่อเมื่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตสมบูรณ์แบบเป็นการคาดหวังที่สูงเกินไป และอาจไม่อยู่ในความเป็นจริง ชีวิตที่เพียบพร้อมไปด้วยความสมบูรณ์แบบมีเพียงชีวิตในนิยายหรือเรื่องที่ไม่มีอยู่จริงเท่านั้น
มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริง หรือ อยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบอย่างมีความสุขกันดีกว่า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น